ใช้ปากให้แก่กัน (Oral ออรัล เซ็กส์) เสี่ยงติดเอดส์มั้ย
จริง! การทำ Oral Sex หรือ โอษฐ์กาม(การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก) ที่คู๋รัก คู่แต่งงาน หลายคู่ทำให้แก่กัน แม้จะทำให้เกิดรสเพศที่ซาบซ่าน แต่ก็มีแนวโน้มเสี่ยงทำให้ติดโรคทางกามารมณ์ได้
ทำ Oral Sex ติดเอดส์ได้อย่างไร ?
การทำ Oral Sex ที่จะทำให้คู่นอนติดเอดส์ถึงกันได้นั้น มักเกิดจากการมีบาดแผลบริเวณช่องปาก โดยจะติดต่อถึงกันจากเชื้อ HIV ที่อยู่ในสารคัดหลั่งในร่างกายของคนเป็นเอดส์ เช่น น้ำอสุจิ , น้ำหล่อเลี้ยงช่องคลอด
และ หากจะเรียง ปริมาณไวรัส HIV ที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์จะเรียงลำดับจากมากไปน้อยได้ ดังนี้ เลือด, น้ำอสุจิ, น้ำจากช่องคลอด, บาดแผล (หมายความว่า การติดต่อผ่านทางเลือดโดยตรง มีโอกาสในการติดมากที่สุด )
การติดเชื่้อเอดส์หรือ HIV ทางปากนั้น มักเกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเชื้อเอดส์อยู่ในร่างกายอยู่แล้ว โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ หรือ ไม่รู้ทั้งสองฝ่าย
นอกเหนือไปจากโรคเอดส์แล้ว ยังมีกามโรคชนิดอื่น ที่สามารถติดต่อได้ทางปาก ได้แก่ โรคมะเร็งในช่องปาก หรือมะเร็งต่อมทอนซิล นั่นเอง
เผลอกลืนอสุจิ ของคนเป็นเอดส์ จะเป็นเอดส์ด้วยมั้ย ?
ไม่! เพราะในกระเพาะอาหารจะมีกรดที่ฆ่าเชื้อ HIV การกลืนน้ำอสุจิจึงไม่ทำให้ติดเอดส์ โดยต้องมั่นใจ 100% ว่าไม่มีแผลในช่องปาก
เราจะป้องกันได้อย่างไร ?
แม้ปัจจุบัน โอษฐ์กาม จะเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่การที่จะทำให้การมีเพศสัมพันธ์ทางปากอย่างปลอดภัย คู่ร่วมเพศทั้ง 2 ฝ่ายควรเพิ่มมั่นใจให้กับคู่ของตนด้วยวิธีเหล่านี้
- ต้องแน่ใจและมั่นใจ 100% ว่า คู่ของเราไม่มีเชื้อ HIV และกามโรคต่างๆ
- ต้องแน่ใจเสมอว่า ในช่องปาก หรือริมฝีปากเราหรือคู่ร่วม ไม่มีแผลในปาก เพราะการมีแผลทำให้เชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกายผ่านทางปากแผลนั้น
- การสวมทุกยางอนามัยแบบมีรสชาต ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แถมยังช่วยสร้างบรรยากาศในการทำออรัลเซ็กส์ อีกด้วย
- การฝ่ายออรัลที่จัดฟัน เจาะลิ้น เจาะปาก ควรระมััดระวังไม่ให้ขดลวดหรือเหล็กเกี่ยวถุงยางจนเกิดบาดแผลเสี่ยงติดเชื้อ